เรื่องเสียว

ดีใจด้วยนะ” เสียงเพื่อนๆที่ต่างแสดงความยินดี ทำให้ตุ๊กตายิ้มรับแก้มแทบปริ รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเพื่อนๆที่ต้องลำบากมาร่วมงานแต่งงานของเธอที่จัดห่าง จากกรุงเทพเกือบ 400 กิโล เนื่องจากเธอย้ายตามว่าที่สามีมาทำงานที่นี่โดยเธอบรรจุเป็นข้าราชการประจำ สำนักงานที่ดินจังหวัด ส่วนว่าที่สามีทำงานธนาคารที่มีสาขาอยู่ในจังหวัดเดียวกัน จนเมื่อเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้วจึงกำหนดจัดงานแต่งงานขึ้นที่นี่โดยเชิญ เพื่อนๆที่เคยเรียนด้วยกันตั้งแต่ยังเรียนมหาวิทยาลัยมาร่วมงานด้วย หลังจากจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเรียบร้อยแล้ว ญาติสนิทของทั้งสองฝ่ายก็พาว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวมาส่งที่ห้องหอซึ่งก็คือ ห้องพักที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้สำหรับทั้งสองโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นห้องที่ดีที่สุดของโรงแรม มีห้องรับแขกแยกต่างหากจากห้องนอน “โห สวยจังเลย” เพื่อนที่เดินไปส่งเอ่ยปากชมหลังจากเห็นห้องหอ เพราะทางโรงแรมจัดกระเช้าดอกไม้ไว้บนโต๊ะรับแขก และยังโปรยกลีบกุหลาบสีแดงบนผ้าปูเตียงจนทั่ว พอส่งว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอเรียบร้อย บรรดาญาติและเพื่อนๆก็เอ่ยปากอวยพรอีกครั้งก่อนจะทยอยเดินทางกลับ “ขอบใจมากจ้ะทุกๆคน ตาจัดที่พักไว้ให้แล้วนะ แล้วพรุ่งนี้

ผมชื่ออาทเป็นคน ยโสธร ผมทำงานเป็นวิศวกรอยู่ย่านรังสิต ปี 52 ผมอายุ 30ปี สูง 170 ผิวดำแดงออกจะคล้ำ หน้าตาก็ไม่ได้หล่อมาก หุ่นบอบบางไม่อ้วน ผมใช้คอมพิวเตอร์ได้อย่างคล่องแคล่วเพราะผมจบวิศวกรคอมพิวเตอร์ ผมมักจะเปิด MSN ไว้ระหว่างทำงานซึ่งแต่ก่อนยังไม่มี เฟสบุ๊ค มีแต่ไฮไฟว์ ผมก็เสิดกูเกิ้ลตามเวปหาเพื่อนต่างๆและแอดอีเมล์ไปเรื่อย จนมาได้คุยกับสาวสวยคนหนึ่ง ชื่อเมย์ ได้ความว่าเธอเป็นคนโพธาราม และเป็น นศ พยาบาลที่ราชบรี ปกติ นศ พยาบาลต้องใช้ชีวิตในรั้ววิทยาลัยแบบกินนอน จะได้กลับบ้านเฉพาะเสาร์อาทิตย์ เมย์พึ่งซื้อโน๊ตบุ๊คใหม่ในตอนนั้นแล้วก็เปิดเว็ปแคมคุยกัน เมย์น่ารักมากผิวขาวผมยาว คุยถูกคอจนเราแลกเบอร์โทรกัน จากนั้นผมก็จะโทรติดต่อกันเรื่อยมา จนเธอเข้าปีสาม เธอก็มาฝึกงานย่านศาลายา พุทธมนทน เรานัดเจอกัน ในเย็นวันนั้นผมขับรถออกไปทำงานตามโรงงานลูกค้าต่างๆเสร็จผมก็ไปหาเธอที่ รพ.ศาลายา รอตั้งแต่ ห้าโมงเย็นถึงประมาณหกโมงครึ่งโทรหาเธอยังไงก็ไม่ติดผมก็เลยจะขับรถกลับ รถติดมากพอดีตอนนั้นประมาณทุ่มหนึ่ง เมย์ก็โทรมาบอกว่าเพิ่งจะลงหวอด เธอไม่ได้ฝึกงานที่ศาลายาเธอบอกว่าอยู่โรงบาลจิตเวชถนนพุทธมนทนสายสี่ ให้มาร

สวัสดีค่ะชื่อจอยค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่ที่มหาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพอยพักที่ห้องพักกับแฟนซึ่งแฟนจอยเค้าเป็นอะไรของเค้าไม่รู้โรคจิตเอามากๆเลยชอบบังคับให้จอยแต่งโป๊ๆโชว์อยู่เรื่อย เค้านึกครึ้มทีไรเดือดร้อนจอยทุกที มีวันหนึ่งช่วงหน้าหนาว เช้าวันนั้นค่อนข้างหนาวซะด้วยจอยเลยต้องใส่เสื้อคลุมกันหนาวก่อนออกไปเรียนตอนเช้า แต่คงเพราะเสื้อคลุมตัวค่อนข้างใหญ่(เสื้อคลุมคณะ) แฟนจอยเลยไม่รู้นึกสนุกอะไรขึ้นมา บอกให้จอยถอดชุดออกให้หมด ถอดกระทั่งชุดชั้นในเลยแล้วให้จอยใส่แต่เสื้อคลุมตัวเดียว จอยตกใจบอกจะบ้าเหรอ เค้าก็ย้อนจอยว่าก็บ้าน่ะสิ พูดจริงนะไม่ได้พูดเล่น จอยเลยทำตามที่เค้าบอก คือจอยไม่อยากขัดใจแฟนจอยน่ะค่ะ จอยเป็นคนไม่อยากขัดใจคนค่ะ พอแฟนจอยเค้าสั่งอย่างจริงจังอย่างนั้นจอยเลยทำตาม ถอดทุกอย่างออกหมดเลย พอจอยใส่เสื้อคลุมเสร็จ เค้าก็บอกว่า แน่ะ ก็เซ็กส์ซี่ดี ไม่เห็นต้องอายเลย แฟนจอยเค้าไม่อายค่ะ แต่จอยคนที่ต้องโป๊นี่สิ อายจนไม่รู้จะอายยังงัยแล้ว แล้วแฟนจอยเค้าก็ไปเอารถมอเตอร์ไซค์มารับจอยแล้วเราก็นั่งไปเรียน ระหว่างทางที่นั่งรถไปเรียนนั้น ถ้าช่วงที่ถนนว่างแฟนจอยเค้าก็ล้วงหีจอยตลอดเลยจอยก็ไม่รู้จะทำยังงัยเลย

น้องเมย์เป็นผู้หญิงที่น่ารักมากเธอเรียนอยู่ม.5 ส่วนผมเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 เรารู้จักกันในคืนวันลอยกระทง ปี 46 เพราะน้องสาวที่อยู่ใกล้บ้านแนะนำให้ เราก็เลยรู้จักกันและติดต่อกันทางโทรศัพท์บ้าง จดหมายบ้าง และพอวันหยุดเราก็นัดพบกันบ่อย แต่มีอยู่วันหนึ่งที่ผมกับเมย์ได้พบกันและมีสัมพันธสวาทกันอย่างลึกซึ้ง เธอนัดให้ผมไปหาที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และผมก็ไปตามนัดวันนั้นเธอแต่งตัวสวยมากนุ่งกางเกงขาสามส่วนรัดจนเห็นทรวด ทรงเป็นรูปร่าง เห็นแล้วชวนนำลายหก พอเราพบกันเธอก็ขวนผมไปดูหนังผมก็ตามใจเธอ ผมกำลังจะไปซื้อตั๋วแต่เธอบอกว่ามีแล้ว ผมก็เลยแก้เขินเดินไปซื้อของขบเคี้ยว และเราก็รีบเข้าไปพอดีหนังกำลังจะฉายไฟมืดสนิทเห็นเฉพาะที่จอหนัง และเราก็เดินไปตามแสงไฟฉายที่พนักงานในโรงหนังฉายให้แล้วบอกให้เลือกนั่งตาม สบายเพราะวันนี้คนไม่มาก ผลพาเธอเดินไปนั้งแถวกลาง ๆ มีเราสองคน นอกนั้นก็อยู่ห่าง ๆ พอหนังตัวอย่างฉายเธอก็นั่งนิ่งเงียบเพราะหนังที่ฉายนั้นเป็นโป้ ซึ่งฉายเพียง 10 นาทีเท่านั้น ผมหนังเองที่เราต้องการไปดูฉายผมก็เลยถามเธอว่าชอบไหมเรื่องที่จบไปเมื่อกี๊ เธอนั้งนิ่งเงียบไม่ตอบ ผมเลยเอื้อมมือไปจบมือเธอเธอมองหน

ผมชื่อ เอ ครับ อายุก้อ 19 อ่ะ คับ เรื่อง ราวของ ผม เกิดขึ้นเมื่อตอนที่ผมยังอายุได้16 อีกอย่างนั้นก้อเปงครั้งแรกของผมด้วย เข้าเรื่องเรยนะครับ เรื่องก้อมีอยุ่ว่าวันนั้นตอนประมาน4โมงเย็นผมได้ไปส่ง เล็ก เพื่อนร่วมห้องของผม ปกติก้อไปส่งตามปกติ ตอนเย็นๆน่ะครับ แร้ววันที่ผมได้เปิดบริสุทธิ์ก้อมาถึง ผมจำไม่ได้ว่าเปงวันที่เท่ารัย แต่เปงวันจันน่ะ ครับ ผมก้อไปส่ง เล็ก ตาม ปกติน่ะครับแร้ววันนั้น พ่อแม่เล็กเค้าไม่อยุ่ที่บ้านไปต่างจังหวัด2-3วัน เค้าเรยชวน ผม แระเพื่อนเค้าไปประมาน2-3คนนี่หล่ะคับ พอเริ่มค่ำเพื่อนๆเค้าก้อได้ถยอยๆกลับบ้านกันเหลือเพียงผม กับ เล็ก อยุ่กัน2คน ตอนแรกผมก้อไม่ได้คิดอะรัยมากหรอกคับ เพราะว่า ผมเองก้อกำลังจะกลับเหมือนกัน แต่คงเพราะเปงเพื่อนที่สนิทกันมั้งคับ เล็ก เค้าขอหั้ยผมอยุ่ค้างคืนเปงเพื่อนเค้าคับ เท่านั้นแหละคับที่ผมเริ่มคิดอะรัยกับเล็กขึ้นมา ผมก้อไม่ได้ปฏิเสธเค้าผมเรยกลับไปที่บ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเส้อผ้า แร้วเตรียมเสื่อผ้าสำหรับไปโรงเรียนในวันต่อไป ประมาน1ทุ่มผมก้อมาถึงที่บ้านเล็กคับ พอเข้ามาในบ้านผมก้อชวนเค้าคุยไปเรื่อยๆ โดยที่ผมมะได้คิดอะรัยกับเค้า ตอนแรกผมจะเป็นฝ่ายที่จะเ

ผมมีประสบการณ์จะเล่าให้ฟังตอนนั้นผมอายุ18กว่าๆก็มี แฟนอยู่คนนึงเธออายุ16ลืมบอกไปผมเป็นคนเหนือหน้าตาจัดว่าค่อนข้างดีไม่ได้ชม ตัวเองนะแฟนผมตอนนั้นเยอะมากแต่ที่มีประสบกามแบบนี้ก็มีเธอคนนี้แหละไม่น่า เชื่อเลยว่าเธอจะกล้ามากคือตอนนั้นเธออยู่ม.5ผมกับเธอ(อ้ม)เพิ่งได้คบกัน เป็นแฟนยังไม่ถึงเดือนดีแต่ยังไม่เคยมีอะไรกันนอกจากภายนอกเท่านั้นวันนั้น เป็นวันเกิดของเพื่อนผม(เอ็ม)ซึ่งเป็นงานใหญ่เนื่องจาก4ปีมี ครั้งนึง(วัตร เกิดวันที่29กุมภา)ผมก็พาเธอไปด้วยตอนนั้นเป็นเวลา3ทุ่มกว่าแล้วผมพาเธอซ้อน มอเตอร์ไซค์ไปอากาศ(ภาคเหนือ)ขณะนั้นหนาวมากผมจึงบอกให้เธอกอดผมแน่นๆเธอก็ กอดผมรู้สึกว่าเธอโนบราเพราะมันเหมือนมีอะไรแข็งๆจุดๆ2จุดมาดันหลังผมผมใส่ เสื้อไม่หนามากเนื่องจากชินกับอากาศหนาวแล้วพอไปถึงงานก็ปรากฏว่าเหลือ เพื่อนผมนั่งดื่มเหล้ากันอยู่ไม่กี่คนเนื่องจากเริ่มดึกแล้วอากาศก็เริ่ม หนาวพ่อแม่ไอ้เอ็มก็เข้านอนกันแล้วเหลือแต่ไอ้เอ็มไอ้ป๊อปไอ้เหน่งซึ่งเป็น เพื่อนซี้กันนั่งกินกันอยู่ผมซึ่งมาทีหลังก็เลยถูกเพื่อนบังคับให้กิน5แก้ว รวดแป๊บเดียวผมก็เริ่มมึนแล้วส่วนอ้มก็เข้าไปนั่งฟังเพลงในบ้านพอเหล้าหมดผม ก็ออกไปซื้ออีกโดย

หลังจากที่ดาวเลิกกับกัน ดาวก็ขึ้นมาเรียนกรุงเทพฯ ก็มีแฟนอ่ะนะ แต่แฟนคนที่สองของดาวเค้าเป็นคนดี สุภาพ แล้วก็ไม่ทำให้ดาวเกลียดกลัวเรื่องอย่างว่า.. ดาวขอไม่เล่าเรื่องแฟนนะ..เพราะมันธรรมดาเกินไป ขอข้ามไปเล่าเรื่องที่มันตื่นเต้น ๆ ดีกว่า .... ตอนนั้นดาวอยู่มหาลัยปี 2 เลิกกับแฟนคนที่ 2 ไปแล้วสักพัก..ดาวก็มีคนมาจีบอยู่เรื่อย ๆ ตามประสาแหละค่ะ..แต่ยังไม่อะไรกับใคร ยังไม่เจอคนที่ใช่..คือดาวชอบคนตัวสูง ๆ อะ นะ 180 up เลยยิ่งดี ถ้าต่ำกว่านี้ดาวไม่ค่อยมองหรอก .... ตอนนั้นดาวรับจ๊อบเป็น Pretty บ้าง MC บ้าง เล่นหนัง เล่นละคร บ้าง (ตัวประกอบเล็กๆ มีบทนิดหน่อย) ตามประสาคนหน้าตาดีอ่ะนะ..อิอิ ก็ว่ากันไป ดาวมีเพื่อนซี้คนนึงชื่อ ยุ .. ยุเค้าจะคนละสไตล์กับดาว เค้าจะขาว ๆ น่ารัก ๆ เหมือนคนญี่ปุ่นอ่ะค่ะ เราสองคนทำงาน Pretty อยู่ Modeling เดียวกัน.. ยุ เค้ามีแฟนแล้วชื่อพี่ พี่.. พี่พีเนี่ยหุ่นนักกีฬามั่ก ๆ หน้าท้อง ซิกแพคเลยอ่ะ มีหนวดเคราเล็กน้อย หน้าตาคมเข้ม แนว sexy อ่ะ.. แล้วพี่พีก็มีเพื่อนชื่อพี่นนที่เช่าคอนโดอยู่ด้วยกัน.. พี่นน ออกจะอวบ ๆ หน้าตาธรรมดา เงียบ ๆ ติ๋ม ๆ พี่นน พยายามขายหนมจีบดาวอยู่เหมือนก

คุณเคยเจอผู้หญิงที่มีความต้องการทางเพศที่แปลกๆ และ ดิบๆ หรือเปล่า? ผมว่า...หากใครได้พบเจอผู้หญิงอย่างนี้...นั่นคือความสุขสมอารมณ์หมายอย่างยิ่ง เมื่อ ปี 2543 ตอนนั้นผมอายุ 26 สำนักงานสถิติแห่งชาติได้สำรวจสำมะโนประชากรขึ้น ผมได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ ที่ต้องไปสำรวจจำนวนประชาชนในตำบลแห่งหนึ่ง บ้านหลังหนึ่ง อยู่ท้ายหมู่บ้านที่มีประชากรไม่กี่หลังคาเรือน ซึ่งผมได้ไปสำรวจ ทำให้ผมได้พบกับ “ดาว” ผู้หญิงวัย 29 ที่มีอารมณ์แปลกๆ และดิบๆ อย่างที่ผมไม่อาจลืมเลือน บ้านหลังนั้นบรรยากาศร่มรื่น เป็นลักษณะบ้านสวน ทางเดินเล็กๆ เข้าบ้านมีต้นมะพร้าวเรียงเป็นแถวตามขอบทางเดิน เชื่อมต่อจากถนนของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นถนนดินทราย มีหญ้าขึ้น ดูเหมือนเป็นแบบทางเกวียนมากกว่า ดาวไม่ใช่สวยขนาดที่ว่า ใครต้องเหลียวกลับหลังเมื่อเดินสวนกับเธอ หน้าตาธรรมดา ตามประสาสาวบ้านนอก ผิวสีน้ำตาลแต่ผิวนวลเนียนละเอียด หน้ายาวๆ ผมดกดำสนิทรับกับคิ้วและขนตายาวงอน จมูกเป็นสันพองาม ส่วนที่สวยที่สุดบนใบหน้าคือดวงตากลมโตและลึก มองดูเหมือนสาวละตินอเมริกา ปากหนาไปนิด ฟันยาวไปหน่อย ดาวเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ ไหล่กว้าง อกไม่โตมากนัก

ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพมหานคร ผมสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้จึงจำเป็นต้องเข้าเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหง และก็เข้าเรียนบ้าง โดดเรียนบ้าง ซึ่งจะหนักไปทางโดดเรียนเสียมากกว่า ทางบ้านส่งเงินให้ผมใช้พอประมาณ แต่ผมเป็นคนเที่ยวเก่ง ทำให้เงินมักจะขาดมืออยู่เสมอ และผมมีหนี้สินมากจนเพื่อน ๆ ที่มีเงินพากันตีตัวออกห่างจากผมจนหมดสิ้น ก่อนวันที่ผมก่อเหตุหนึ่งวัน ผมได้ไปเที่ยวผับหน้ามหาวิทยาลัยกับไอ้จ้อยเพื่อนซี้และก็ถลุงเงินที่มีในกระเป๋าจนหมดสิ้น ผมกลับมานอนที่หอพักกับไอ้จ้อย เช้าวันรุ่งขึ้นผมกับไอ้จ้อยอาศัยมาม่าสองซองสุดท้ายที่เหลืออยู่เป็นอาหารเช้า หลังอาหารเช้าผมกับไอ้จ้อยปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรดีกับชีวิตของตัวเอง "เราน่าจะออกไปหางานทำ ดีกว่านั่งงอมืองอตีนอย่างนี้" ไอ้จ้อยออกความเห็น "กูว่าไม่ไหวหรอก กว่าจะได้แต่ละบาท กูว่ากูคงทนไม่ไหวว่ะ" ผมแย้ง "แล้วมึงจะทำยังไง ?" ไอ้จ้อยสงสัย "กูวางแผนจะจี้ไอ้พวกนักศึกษาที่พ่อแม่มันรวย ๆ ไอ้พวกที่มีรถขับฉุยฉายพวกนั้นแหละ" "ตารางเชียวนะมึง ถ้าถูกจับได้" ไอ้จ้อยเตือน "เฮ่ย ! เราก็เลือกผู้หญิ

ดิฉันแต่งงานตั้งแต่รุ่นเรียนจบใหม่แล้วก็มีลูกชายคนเดียวให้ชื่อเขาว่า ตูน ดิฉันไม่ค่อยมีเวลาให้เขาเท่าไรต้องทำงานสร้างฐานะและดิฉันกับสามียังรุ่นแน่นอนยังอยากเที่ยวสนุกกับแสงสี ปู่ย่าพ่อแม่สามีและและพี่สาวสามี(ป้าเขา)ที่ไม่มีลูกเป็นคนเลี้ยงลูกให้เรา ทุกคนรักตูนมากเพราะเป็นหลานชายคนดียว เราทำงานไม่กี่ปีก็มีเงินมากพอซื้อบ้านเป็นของตัวเองอยู่ตรงข้ามบ้านพ่อสามีในหมู่บ้านเดียวกันแค่เดินข้ามถนนในซอย ตูนลูกชายดิฉันจึงอยู่ทั้งสองบ้าน ดิฉันอยู่กินกับสามีมีความสุขดีได้สิบสี่ปีสามีก็มาตายจากดิฉันจึงเป็นม่ายทั้งที่อายุสามสิบกลางๆดิฉันจัดว่าเป็นคนสวยแน่นอนมีหนุ่มเล็กใหญ่มองดิฉันและต้องการเข้ามาแทนที่สามีที่ตายไป แน่นอนดิฉันยังไม่แก่ยังมีความต้องการทางเพศมีหนุ่มเล็กใหญ่เข้ามาตีสนิทกับดิฉันมากมายทั้งหมดหวังในตัวและความสวยสวยของดิฉัน ดิฉันเคยคิดเสมอจะหาสามีใหม่ แต่ห่วงลูกและความรู้สึกทางบ้านสามี ตูนปกติมักนอนบ้านคุณปู่แต่ตอนนี้เขามานอนบ้านเป็นเพื่อนดิฉันแทบทุกวัน จากที่เราเคยห่างเหินกันก็มาเริ่มใกล้ชิดดิฉันดูว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีคิดเลยเถิดไปถึงเรื่องบ้าๆต้องตัดห้ามใจ ดิฉันดับความเหงาที่ขาดสามีและ